สติ๊กเกอร์คุณภาพดี สร้างจุดสนใจเข้าถึงเป้าหมาย กระแสไม่มีตก

ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันนั้นการใช้งาน “สติ๊กเกอร์” ได้รับความนิยมในงานด้านต่าง ๆ อย่างมาก แทบจะทุกหมวดหมู่สินค้าเลยก็ว่าได้ ถือเป็นตัวแปรที่สร้างจุดสนใจให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สั่งทำแล้วกระแสการค้าขายไม่มีตกแน่นอน ทว่าสติ๊กเกอร์แท้จริงมีความสำคัญกับสินค้าอื่น ๆ อย่างไรอีกบ้าง มีให้เลือกกี่ประเภทเชื่อว่ายังมีหลายคนที่อยากค้นหาคำตอบ และไม่พลาดรวบรวมมาให้ศึกษา

ความสำคัญของสติ๊กเกอร์กับแบรนด์สินค้าต่าง ๆ

ปัจจุบันการทำสติ๊กเกอร์เพื่อเป็นฉลากสินค้าได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ การที่จะสร้างให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ตอบโจทย์การใช้งานก็จะมีประเภทให้เลือกหลากหลาย โดยสามารถเลือกพิมพ์ได้ตามต้องการ เป็นทั้งชื่อแบรนด์อย่างเดียว หรือมีส่วนประกอบ วิธีการใช้งาน ส่วนผสม ข้อควรระวัง ไปจนถึงวันที่ผลิต – หมดอายุเลยก็ว่าได้ โดยที่มีความสำคัญกับแบรนด์

• ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น ใครได้เห็นผ่านหูผ่านตาก็จะจำได้เลยว่าเป็นสินค้าของแบรนด์ไหน เป็นของใคร โดยจะทำให้รู้ว่าสินค้ามีชื่ออะไร กลับไปใช้งานแล้วเกิดความพึงพอใจก็จะรู้เลยว่ารอบต่อไปซื้อสินค้าแบรนด์ไหนดี โดยที่ฉลากสินค้าจะทำหน้าที่บอกผ่านลวดลาย ตัวอักษรที่มี
• เพื่อสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ เพราะด้วยความที่มีลวดลายสวยงาม สดใส ดูโดดเด่น ก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความประทับใจ ยิ่งถ้าตอบโจทย์การใช้งานด้วยแล้วก็จะรู้จักอยากใช้ต่อกลายเป็นความจงรักภักดีที่มีต่อแบรนด์ไปโดยปริยาย ไม่อยากเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่น

ประเภทของสติ๊กเกอร์ที่ได้รับความนิยมทำฉลากสินค้า

เผื่อว่าใครที่ไม่รู้จะเลือกสติ๊กเกอร์ไหนเหมาะกับงานแบบใด ก็มีมาแนะนำให้ได้รู้จัก เพื่อการเลือกใช้งานที่ตอบโจทย์มากขึ้น นั่นคือ

1. แบบ PP Sticker

เหมาะกับงานที่ต้องเปียก หรือโดนน้ำ เนื้อสัมผัสมีความเรียบเนียนดูสวยว่าประเภทอื่น สามารถใช้ติดได้กับขวดแชมพู ขวดครีมนวด ขวดครีมทาหน้า ฯลฯ มีให้เลือกเพิ่มเติม ทั้ง PP ใส, PP ขาวเงา และ PP ด้าน ที่เพียงน้ำได้ 100% ทนความร้อนสูงสุด 90 องศาเซลเซียส

2. แบบ Paper sticker

เป็นอีกประเภทที่น่าสนใจและได้รับความนิยมเพราะราคาถูก แต่ต้องระวังในเรื่องการโดนน้ำเพราะโดนได้ 40% (แต่ถ้าเคลือบลามิเนตจะโดนได้แต่ก็ไม่ถึงกับ 100%) เหมาะกับฉลากสินค้าทั่วไป เช่น ใช้บอกวันหมดอายุ หรือเป็นบาร์โค้ด ทนทานความร้อนได้สูงสุด 90 องศาเซลเซียส

3. แบบซีทรู Sticker

เป็น Sticker ที่ราคาสูงเหมาะกับงานโฆษณาบนกระจกรถประจำทาง หรือหน้าต่างร้าน คนด้านนอกมองเข้ามาไม่ได้ แต่คนด้านในมองได้ สามารถโดนความร้อนได้ 40 – 60 องศาเซลเซียส และสามารถโดนน้ำหรือเปียกได้ 100%

4. พีวีซี PVC sticker

มีความทนทานสูง สามารถโดนน้ำ ตากฝนได้เลย 100% ส่วนด้านการทนความร้อนจะอยู่ที่ 40 – 60 องศาเซลเซียส ถ้าโดนความร้อนมากกว่า 40 องศาก็จะเริ่มเป็นรอยย่น หดตัว ส่วนใหญ่ก็จะใช้กับงานโลโก้, เครื่องใช้ไฟฟ้า, แกลลอนน้ำมัน, แก้วน้ำ, ถังน้ำมัน, ติดกระจกรถยนต์ ฯลฯ

ส่วนประกอบของสติ๊กเกอร์ที่มีคุณภาพที่ร้านรับทำควรมี

ถือเป็นสิ่งที่ต้องรู้กันมาก ๆ กับส่วนประกอบของตัวสติ๊กเกอร์ที่มีคุณภาพ นำไปใช้แล้วได้ประโยชน์สูงสุดที่ร้านรับทำที่ดีควรมีให้ก็คือส่วนประกอบสำคัญเหล่านี้

• ชนิดของเครื่องพิมพ์ ที่ควรเป็นเครื่องมีมาตรฐาน มียี่ห้อที่น่าเชื่อถือ และมีฟีเจอร์การทำงานที่ทันสมัย ก็จะได้ภาพสีที่ออกมาชัดเจน สวยงาม ดูมีคุณภาพมีความหรูหรา
• ชนิดของวัสดุที่ใช้ทำ โดยที่วัสดุแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันในเรื่องคุณภาพ แม้จะมีชื่อเดียวกันแต่คุณภาพก็ต่างกันได้ โดยเฉพาะเรื่องกาวที่ติด หรือพื้นผิวสัมผัสของหน้าวัสดุ ความด้าน ความเงา
• หมึกที่ใช้พิมพ์ ที่ส่วนใหญ่นั้นงานพิมพ์ Sticker จะมี 3 ชนิดให้ใช้ คือ หมึกอีโค่โซเว้น, หมึกลาเท็ก และหมึกโซเว้น ที่ความทนทาน กันแดดกันน้ำก็จะต่างกันออกไป ซึ่งถ้าถามว่าหมึกแบบไหนดีก็แนะนำเป็นหมึกลาเท็ก

กาวรองหลังสติ๊กเกอร์ก็มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย

เมื่อจะทำสติ๊กเกอร์แล้วนั้นการใส่ใจเลือกกาวรองหลังก็คือว่ามีส่วนสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน แน่นอนว่าหากเลือกได้ดีก็จะมีส่วนกับการนำมาติดกับบรรจุภัณฑ์ อายุการใช้งานจะยาวนานมากขึ้น โดยที่ควรเน้นไปกับกาวที่ราคาสูง อายุการใช้งาน 10 ปี อายุการใช้งาน 5 ปี ถือว่าน่าสนใจมาก ๆ รวมถึงยังประหยัดเวลาทั้งก่อนและหลังการติดตั้งด้วย เพราะการเลือกกาวรองพื้นหลังที่ดีก็จะมีผลตั้งแต่ช่วงก่อนติดตั้งชิ้นงานเพราะจะทำให้กาวเหนียวติดไปเลยต้องมากลัวว่าจะมีส่วนไหนเด้งไม่ติดบรรจุภัณฑ์ และยังสามารถลอกออกได้หากเกิดข้อผิดพลาดโดยที่ไม่ทิ้งคราบกาวเหนียวเหนอะไว้ให้รำคาญใจ ทั้งติดใหม่ก็ยังเหนียวแน่นเหมือนไม่เคยลอกมาก่อน

สติ๊กเกอร์นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สินค้าหรือแบรนด์ได้รับความนิยมมากขึ้นได้ สั่งทำแล้วกระแสไม่มีตก เพราะใครที่เห็นก็จะอ่านและเกิดเป็นภาพจำ เมื่อต้องการใช้งานก็จะนึกถึงแบรนด์ได้เป็นอันดับแรก ยิ่งใช้งานได้ดีตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายก็จะอยากซื้อซ้ำจำได้ขึ้นใจแน่นอน