เมื่อผลิตสิ่งพิมพ์ออกมเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถเลือกรูปแบบการเคลือบได้ตามต้องการ เพื่อเพิ่มความสวยงาม หรือป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะทำร้ายกระดาษให้เสื่อมสภาพเร็ว ทั้งรอยขีดข่วน ความชื้น เปียกน้ำเปื่อยขาด ฯลฯ ซึ่งการเคลือบยูวีจะมีลักษณะที่คล้ายการเคลือบลามิเนต แต่ในความเป็นจริงมีสิ่งที่แตกต่างพอสมควร มาศึกษากันว่าการเคลือบ UV คืออะไร มีกี่รูปแบบ แล้วต่างจากการเคลือบลามิเนตอย่างไร??
การเคลือบยูวีคืออะไร
การเคลือบยูวี คือ การเคลือบผิวกระดาษที่มาจากน้ำยาเคลือบเงา โดยเครื่องเคลือบแบบ UV นั้นจะเป็นลักษณะเฉพาะทาง และเป็นการทำให้แห้งจากแสง UV ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีความเงางามสูงมาก เลือกเลยทั้งแบบเคลือบด้าน และเคลือบเงา
ซึ่งปัจจุบันนี้มีการพัฒนาระบบเคลือบ UV ให้ติดอยู่กับเครื่องพิมพ์แล้ว หลังจากผลิติชิ้นงานออกมาเรียบร้อยก็ดำเนินการเคลือบ UV ออกมาเบ็ดเสร็จ นอกจากนี้ ยังมีการเคลือบ UV ลักษณะตัวทำละลายน้ำ หรือ Water base UV ได้ด้วย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และงานที่เหมาะสมกับการเคลือบวิธีนี้มีหลากหลาย เช่น แผ่นปลิว, โปสเตอร์, แผ่นพับ, โบร์ชัวร์, ปกหนังสือ, หนังสือปกแข็ง, ปกนิตยสาร, ปกพอคเก็ตบุ๊ค เป็นต้น
การเคลือบยูวีมีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง
1. เคลือบ UV ธรรมดา
สำหรับการเคลือบยูวีธรรมดาจะเป็นการเคลือบแบบปกติทั่วไป เพิ่มสีสันให้งานดูดีมีคุณค่ามากขึ้น ช่วยให้สิ่งพิมพ์ไม่เกิดรอยขัดข่วน หรือไม่มีความชื้นจากละอองน้ำ ราคาถูก เข้าถึงง่าย เคลือบง่ายไม่เสียเวลา ทำให้การใช้งานสิ่งพิมพ์ยาวนานมากขึ้น
2. การเคลือบ UV แบบด้าน
การเคลือบรูปแบบนี้จะเป็นการเพิ่มสีสันต่าง ๆ ให้งานออกมาดีมากขึ้น ป้องกันรอยขีดข่วน รวมถึงช่วยป้องกันความชื้นจากละอองน้ำต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นที่น่าสนใจคือจะช่วยเพิ่มโอกาสการใช้งานของสิ่งพิมพ์ได้มากกว่าเดิม แถมยังสามารถป้องกันความเสียหาย ไม่ต้องทำใหม่ ประหยัดเงินไปอีก ลักษณะงานจะเป็นแบบเรียบ ไม่มีความเงางาม ไม่มีความขรุขระ
3. การเคลือบ UV แบบเงา
เป็นการเคลือบที่จะช่วยเพิ่มสีสันให้อีกเช่นกัน รวมถึงช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ความชื้นจากละอองน้ำ แต่ลักษณะงานที่ได้จะมีความเงางามเพิ่มเติมด้วย ช่วยให้งานดูโดดเด่น หรูหรามากขึ้น ยืดอายุการใช้งานสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การเคลือบ UV เว้นลิ้น
ชื่ออาจฟังดูแปลก ๆ แต่งานที่ออกมาถือว่าน่าสนใจ เพราะสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ๆ จะมีความสะดุดตามากขึ้น เพิ่มสีสันได้อย่างดี ความเงาที่ได้จะหรูหรา มีระดับ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน และละอองน้ำ ป้องกันความชื้นที่จะเกิดขึ้น ราคาถูก หาแหล่งเคลือบได้ง่ายมาก
5. การเคลือบ UV เฉพาะจุด
เป็นการเน้นการเคลือบยูวีที่จะเอาเฉพาะจุดสำคัญ หรือแค่บางช่วงของสิ่งพิมพ์ ไม่ได้อยากเคลือบทั้งหมด เพื่อที่ให้สิ่งพิมพ์นั้น ๆ มีความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ก็ยังช่วยเพิ่มสีสัน สร้างลูกเล่นได้อย่างดี เป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่าทางการขาย และช่วยกำหนดสิ่งสำคัญให้ลูกค้าเห็นง่ายมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ยังมีลักษณะการเคลือบแบบฟิล์มพิเศษด้วย ซึ่งจะเคลือบโดยวิธีการกด และรีดระหว่างฟิล์มพลาสติกกับสิ่งพิมพ์นั้น ๆ ช่วยเพิ่มความเงางาม ความสวยงามได้ดี ป้องกันรอยชีเข่วนของผิวสิ่งพิมพ์ และช่วยป้องกันละอองน้ำได้อย่างดี อายุการใช้งานก็จะยาวนานมากขึ้น ป้องกันความเสียหายได้ไร้ที่ติ
การเคลือบยูวีต่างจากการเคลือบลามิเนตอย่างไร
แม้การเคลือบทั้งแบบลามิเนต และแบบ UV มองผิวเผินมีลักษณะที่คล้ายกันมาก บางคนอาจเกิดความสับสน และสงสัยได้ว่าต่างกันจริงไหม จึงขอนำเอาความแตกต่างรวบรวมมาให้ศึกษา เพื่อการใช้งานที่ผ่านไปได้อย่างราบรื่นที่สุด ได้สิ่งพิมพ์ที่มีคุณภาพสมความต้องการ
1. เคลือบแบบลามิเนต
จะมีลักาณะการเคลือบ 2 อย่างด้วยกัน คือ แบบด้าน และเงา เริ่มจากการใช้กาว หรือความร้อนอัดฟิล์มแผ่นบาง ๆ มาประกบติดกันกับผิวสิ่งพิมพ์โดยราคาจะสูงกว่าการเคลือบยูวี จุดเด่นคือป้องกันความชื้น กันน้ำได้ดี เพราะมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการซึมผ่าน เพิ่มความหนา ความแข็งแรงให้งานพิมพ์ดีมากขึ้น แต่จุดด้อยคือไม่สามารถเคลือบที่กระดาษบางมากได้
2. เคลือบแบบยูวี
สำหรับการเคลือบแบบยูวีนั้นจะเป็นกระบวนการที่ใช้น้ำมัน UV อาบไปบนผิวสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ แล้วก็จะอบด้วยแสง UV อีกครั้ง มีให้เลือกเคลือบได้ทั้งแบบเงา และแบบด้าน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเคลือบแบบเงา ราคาถูกกว่าการเคลือบลามิเนต โดนแสงแดดนาน ๆ ก็ไม่มีปัญหาสีงานพิมพ์ซีดแน่นอน
อย่างไรก็ดี ทุกคนยังสามารถเลือกงานสิ่งพิมพ์ให้เป็นการเคลือบลามิเนต และมี UV ผสมเฉพาะจุดได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการเคลือบแบบลามิเนตลงไปก่อน แล้วจึงทับด้วย UV อีกครั้ง ช่วยเน้นส่วนสำคัญและยังป้องกันสีซีดได้ดี ไม่ว่าจะรูปภาพ หรือตัวอักษรใดก็ตาม งานพิมพ์โดดเด่นมากขึ้น
การเคลือบยูวีเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ควรค่าต่อการใช้งานในงานสิ่งพิมพ์อย่างที่สุด อย่างน้อยก็จะได้งานที่มีสีสันสดใสสวยงามคงสภาพได้นาน ไม่ซีดไวแล้ว และหวังว่าทุก ๆ คนจะเลือกเคลือบระหว่างลามิเนต และ UV ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น